สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับอัลกอริธึม หากคุณหรือคนที่คุณรักใช้เวลาบนโซเชียลมีเดีย แนวโน้มที่จะเห็นเฉพาะเนื้อหาที่แนะนำโดยอัลกอริทึมค่อนข้างสูง
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Facebook, Instagram และ TikTok ให้ความบันเทิงแก่ผู้ใช้ และพยายามทำให้ผู้ชมอยู่บนแพลตฟอร์มของตนเอง
พวกเขาประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้ชม ด้วยความช่วยเหลือของอัลกอริธึมที่ซับซ้อนที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งแนะนำเนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการดู ทำให้ผู้ใช้อยู่บนแพลตฟอร์มเป็นเวลานาน การใช้อัลกอริธึมได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเทคนิคที่ทำกำไรได้มากสำหรับยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดีย ยิ่งผู้คนใช้เวลากับไซต์เหล่านั้นมากเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งเห็นโฆษณามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะซื้อของบางอย่างมากขึ้น
แม้ว่าหลายคนจะชอบเมื่อได้รับเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ แต่การใช้เทคนิคโซเชียลมีเดียดังกล่าวที่ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมเป็นเวลานานก็อาจเป็นเรื่องน่าตกใจเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ชอบวิดีโอเกี่ยวกับแมว ระบบจะทำให้เห็นวิดีโอแนะนำที่เกี่ยวกับแมวมากขึ้นหลายคนอาจจะถูกใจ แต่การที่เนื้อหาเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อผู้คน แต่บริษัทต่างๆ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ Facebook ของ Meta ผู้ใช้หาทางไปที่ปุ่ม “ล่าสุด” ที่จะแสดงรายการโพสต์ตามลำดับเวลาก็ตาม ผู้ใช้ยังคงเห็นฟีดข่าว Facebook ที่ควบคุมโดยอัลกอริธึมเมื่อพวกเขาอยู่บนเว็บไซต์ โดยทั่วไปแล้ว Big Tech จะได้รับสิทธิพิเศษจาก AI ซึ่งอัลกอริทึมช่วยให้ผู้จ่ายเงินค่าโฆษณามีความสุข ตัวอย่างเช่น TikTok ที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็ก ๆ ต้องเตือนผู้ใช้ให้หยุดพักบ้าง ถึงกับต้องมีการว่าจ้างผู้สร้างเนื้อหาชั้นนำบางรายเพื่อผลิตเนื้อหาที่ขอให้ผู้ใช้ TikTok หยุดเล่น และไปพักบ้าง
หลายคนเชื่อว่าบางครั้งอัลกอริทึมก็เป็นตัวขับเคลื่อนของข้อมูลที่ผิดด้วยเช่นกัน สมมติว่าคุณชอบเนื้อหาบางประเภท ในกรณีนั้น อัลกอริธึมมักจะแนะนำเนื้อหาที่คล้ายกันมากขึ้น ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่เนื้อหาที่พวกเขาต้องการแต่กลับแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ จะพยายามแก้ไขในส่วนนี้แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด
เทคนิค Big Tech เองก็มีมีส่วนที่อาจอันตรายต่อประชาธิปไตยปีที่แล้ว Zach Vorhies ผู้แจ้งเบาะแสของ Google อธิบายว่า Google “เขียนอัลกอริธึมของพวกเขาใหม่เพื่อติดตามทรัมป์โดยเฉพาะ” ในการให้สัมภาษณ์กับ Epoch Times
ฝ่ายนิติบัญญัติพยายามผลักดันกฎหมายบังคับให้องค์กรด้านเทคโนโลยีอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงแพลตฟอร์มที่ไม่ได้กำหนดรูปแบบโดยอัลกอริธึม และ Big Tech ไม่ค่อยพอใจกับมัน ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียใช้อัลกอริธึมดังกล่าวเพื่อดึงดูดผู้ชม เช่น Amazon, Netflix, Spotify, Apple และ Google จะได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกันหากกฎหมายผ่าน
Credit https://www.pandasecurity.com/